การตรวจหัวใจในผู้สูงอายุ ควรตรวจเมื่ออายุมาก
เมื่อคนอายุมากขึ้นโรคที่เกิดจากหัวใจและหลอดเลือดจะเพิ่มมากขึ้น
โดยสามารถจะแบ่งเป็นกลุ่มดังนี้
- เกิดจากโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ซึ่งทำให้เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตัน และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดแดงใหญ่เออออร์ต้าโป่งพอง (Aortic Aneurysm)
- โรคความดันโลหิตสูง ในคนที่อายุเกิน 65 ปี อาจพบว่าความดันโลหิตสูงกว่า 140/90 มม.ปรอท ถึง 50%
- การทำงานของหัวใจล้มเหลว (Congestive heart farilure) ซึ่งมีสาเหตุหลายอย่าง ทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย
- โรคของลิ้นหัวใจตีบหรือรั่ว โดยเฉพาะลิ้นหัวใจเออออร์ต้า เนื่องจากมีการเสื่อมของลิ้นหัวใจและมีแคลเซียมมาจับ
- โรคหัวใจเนื่องจากการเต้นที่ผิดจังหวะคนไข้บางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เลย เช่น โรคความดันโลหิตสูงมักจะไม่มีอาการผิดปกติเป็นส่วนใหญ่นอกจากนี้ในคนไข้ที่กล้ามเนื้อหัวใจทำงานลดลงไม่มาก อาจไม่มีอาการเหนื่อยง่ายเนื่องจากคนสูงอายุไม่ได้ทำงานหนัก
การตรวจเช็คหัวใจจึงมีความจำเป็น และการตรวจพื้นฐานจะประกอบด้วย
- การตรวจร่างกายระบบหัวใจ และการวัดความดันโลหิต
- ตรวจเลือดดูภาวะไขมันในเลือดสูงและเบาหวาน
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (E.K.G.) และเอ็กซเรย์ปอดดูขนาดหัวใจ
ส่วนในคนที่สงสัยว่าจะมีโรคหัวใจจะสามารถตรวจพิเศษ ดังนี้
- การวิ่งทดสอบสมรรถภาพหัวใจ (Exercise Stress Test) เพื่อดูการทำงานของหัวใจ และดูว่ามีกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือไม่เวลาออกกำลัง
- การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiogram) จะสามารถดูขนาดของหัวใจ ความหนาของกล้ามเนื้อหัวใจ ลิ้นหัวใจทั้ง 4 ลิ้นว่ามีมีลิ้นตีบหรือรั่วหรือไม่ ดูการบีบตัวของหัวใจ
- การบันทึกการเต้นหัวใจ 24 ชั่วโมง (24 hours holter monitoring) ในกรณีที่สงสัยหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือสงสัยว่าอาการเป็นลมหมดสติเกิดจากหัวใจเต้นช้ามาก นอกจากนี้ยังสามารถดูการขาดเลือดของกล้ามเนื้อหัวใจระหว่างที่ติดเครื่องไว้
การตรวจโดยวิธีพิเศษนี้ แต่ละวิธีจะมีข้อดีข้อต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคหัวใจ
ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ connect-quebec.com อัพเดตทุกสัปดาห์